ภาพจิตรกรรมฝาผนังแมวไทยสมัยรัชกาลที่ 3


ภาพจิตรกรรมฝาผนังแมวไทย สมัยรัชกาลที่ 3 ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์ กรุงเทพฯ)
จารึกและภาพจิตรกรรมตำราแมว ถูกวาดขึ้นบนฝาผนัง ณ ตำหนักวาสุกรี (หอไตรวัดโพธิ์) เป็นที่ประทับของกรมพระปรมานุชิตชิโนรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ 7 (ในสมัยรัชกาลที่ 3) พระองค์เป็นพระราชโอรสของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ประสูติหลังเสียกรุงศรีอยุธยา 13 ปี จิตรกรรมฝาผนังแมวไทยในวัดโพธิ์นี้ อาจเป็นหนึ่งในมรดกงานศิลปะที่สรรสร้างโดยชาวอยุธยาที่ยังมีชีวิต ซึ่งมีความเชื่อกันว่า ผู้คนและวัฒนธรรมจากสมัยกรุงศรีอยุธยาได้สืบทอดมาจนถึงรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยอาจกล่าวได้ว่า คนอยุธยา (รวมถึงผู้สืบทอดขนบธรรมเนียม) ยังคงมีชีวิตอยู่รอดมาจนถึงรัชกาลที่ 3 และเริ่มล้มหายตายจากไป จนเข้าสู่ยุครัชกาลที่ 4 ที่ประชากรในกรุงเทพอาจไม่เหลือผู้คนที่เกิดในสมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว
“หอไตร” หรือชื่อเต็มว่า “หอพระไตรปิฎก” เป็นอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเก็บรักษาพระไตรปิฎก คือ พระวินัย, พระสูตร และพระอภิธรรมหรือพระปรมัตถธรรม ซึ่งเป็นพระคัมภีร์สำคัญที่สุดที่ประมวลพระพุทธพจน์เข้าไว้ด้วยกัน ตามปกติหอไตรมักสร้างในบริเวณที่มีน้ำล้อมรอบเพื่อที่จะเก็บรักษาพระคัมภีร์ให้ปลอดจากแมลงชนิดต่าง ๆ ที่จะไปทำลาย แต่สมัยหลังความนิยมเปลี่ยนไปจากการสร้างกลางสระขึ้นมาสร้างอยู่ในเขตพุทธาวาสบ้าง แต่ส่วนมากจะอยู่ในเขตสังฆาวาส บางวัดมีมากกว่าหนึ่งหลังคือสร้างประจำคณะต่าง ๆ
หอไตรในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “วัดโพธิ์” นี้ มีจำนวน 6 หลัง อยู่ในเขตพุทธาวาส 1 หลัง คือ พระมณฑปหอไตรจตุรมุขหรือหอธรรม เครื่องยอดทรงมงกุฎประดับกระเบื้องเครื่องถ้วย ภายในมีตู้ไม้รูปปราสาทเป็นที่เก็บพระไตรปิฎกใบลานฉบับเทพชุมนุม ส่วนหอไตรอีก 5 หลังตั้งอยู่ในเขตสังฆาวาส ได้แก่ (1) หอไตรข้างตำหนักกรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส (ตำหนักวาสุกรี) อยู่ในคณะเหนือ น. 16 (2) หอไตรคณะเหนือ น. 1 (3) หอไตรคณะเหนือ น. 23 (4) หอไตรคณะใต้ ต. 1 (5) หอไตรคณะใต้ ต. 34
หอไตรกรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรสที่จะกล่าวถึงในบทความนี้ ตั้งอยู่ในบริเวณตำหนักกรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส หรือเรียกกันว่า "ตำหนักวาสุกรี" ตามพระนามเดิม (พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวาสุกรี) อยู่ในบริเวณคณะ น. 16 ซึ่งเป็นกุฏิอธิบดีสงฆ์หรือกุฏิเจ้าอาวาส มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมเป็นทรงโรง เครื่องบนหลังคามีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ นาคสะดุ้ง มุงกระเบื้องเคลือบสีเขียว มีพาไลโดยรอบ หน้าบันเป็นปูนปั้นลายดอกพุดตาน ลงรักปิดทองประดับกระจก เฉลียงรอบนอกกว้าง 8 เมตร ยาว 11 เมตร พื้นไม้กระดาน ผนังหอไตรก่ออิฐถือปูน ผนังด้านนอกประดับกระจกสี กรอบประตูหน้าต่างปูนปั้นลายดอกพุดตาน ภายในห้องมีขนาดกว้าง 3.20 เมตร ยาว 6.40 เมตร
หอไตรเป็นที่เก็บรักษาคัมภีร์พระพุทธศาสนา คือ พระไตรปิฎก อรรถกถาและฎีกา เป็นต้น ที่เป็นใบลานและสมุดไทยบรรจุไว้ในตู้ทองลายรดน้ำ นอกจากนี้ ที่ฝาผนังยังมีภาพจิตรกรรมหลายเรื่อง อาทิ ชาดก ตำราจับภาพรามเกียรติ์ ตำราช้าง ตำราม้า ตำราโคและเขาโค ตำราดาว และตำราแมว
เนื่องจากจารึกและภาพจิตรกรรมตำราแมวนี้อยู่ที่หอไตร ตำหนักวาสุกรี ซึ่งเป็นเขตสังฆาวาสของคณะสงฆ์ ไม่ได้เปิดให้เข้าชมทั่วไป จากภาพจิตรกรรมฝาผนังมีแมวลักษณะดี 17 ชนิด และแมวลักษณะร้าย 6 ชนิด เป็นพงศาวดารและความเชื่อชุดเดียวกันกับตำราแมวในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่มักกล่าวว่ามีแมวมลคล 17 ชนิดเท่านั้น หมายความว่า ความเชื่อเรื่องแมวมงคลของวัดโพธิ์สืบทอดองค์ความรู้มาจากสมัยกรุงศรีอยุธยาโดยตรง ซึ่งต่างจากตำราแมวไทยชุดใหม่ ๆ ในสมัยกรุงธนบุรีและเข้าสู่ยุคกรุงรัตนโกสินทร์ที่เริ่มมีแมวขาวมณีเข้ามาในตำรา เช่น ตำราแมววัดอรุณฯ พบแมวขาวมณีด้วย และตำราแมวในยุคหลัง ๆ ที่ระบุว่าพบแมวมากกว่ากว่า 23 ชนิด เป็นต้น
ปล. ชนิดของแมวหรือลักษณะของแมว มิอาจเหมารวมได้ว่าเป็นสายพันธุ์
 

ความคิดเห็น